บาคาร่า มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร แนะนำมือใหม่ควรรู้ก่อนแทง

บาคาร่า มีกี่ประเภท

รู้หรือไม่ว่า บาคาร่า นั้นมีให้เล่นหลายประเภทด้วยกัน เพราะว่าบาคาร่านั้นมีให้เลือกหลายค่าย ในแต่ละค่ายที่เปิดให้บริการ บาคาร่าออนไลน์ นั้นจะมีประเภทให้เดิมพันที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวให้ท่านได้ทำความเข้าใจว่า บาคาร่ามีกี่ประเภท และความแตกต่างในเรื่องของกติกาและการเดิมพันของแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร


BACCARAT TYPE

บาคาร่า มีให้เล่นทั้งหมดกี่ประเภท ?

BACCARAT TYPE หรือจะให้แปลตรงตัวก็คือ ประเภทของบาคาร่า ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เปิดให้บริการและมีความแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของวิธีเล่น กติกาในการจ่ายเงินเดิมพัน แต่สิ่งที่เหมือนกันในทุกค่ายนั้นก็คือกติกาในการนับแต้มและการจั่วไพ่ของทั้งฝ่าย Banker และ Player ส่วนตัวเลือกในการเดิมพันของแต่ละค่ายก็จะมีตัวเลือกที่แตกต่างกันออกไปและเป็นสิ่งที่มือใหม่ควรรู้และทำความเข้าใจก่อนเล่น

ซึ่งทางเราได้รวบรวมข้อมูลและรูปแบบในการเดิมพัน บาคาร่าออนไลน์ จากหลายค่ายซึ่งรวมกันได้มาทั้งสิ้น 4 ประเภทด้วยกัน มาดูกันเลยดีกว่า บาคาร่าทั้ง 4 ประเภทที่เราจะมาแนะนำนั้นมีความแตกต่างกันตรงไหนและแตกต่างจากรูปแบบที่ท่านเคยเล่นมาหรือไม่

บาคาร่าทั่วไป

เริ่มกันที่บาคาร่าแบบทั่วไป (Classic Baccarat) จะเป็นรูปแบบที่เปิดให้เล่นทุกค่าย ส่วนความแตกต่างในแต่ละค่ายนั้นก็คือตัวเลือกในการเดิมพันที่บางค่ายอาจจะมีหรือไม่มี ซึ่งเราจะมายกตัวอย่างค่ายที่มีตัวเลือกให้เดิมพันที่ค่อนข้างครบมาดูกันเลยว่ามีตัวเลือกให้เดิมพันอะไรบ้าง

บาคาร่า ทั่วไป

  1. เพลย์เยอร์ (Player) อัตราจ่ายคือ 1 เท่า เป็นการเลือกว่าฝ่ายผู้เล่นจะมีแต้มมากกว่าฝ่ายเจ้ามือ
  2. เสมอ (Tie) อัตราจ่ายคือ 8 เท่า เป็นการเลือกว่าทั้งเจ้ามือและผู้เล่นจะได้แต้มเท่ากัน
  3. แบงค์เกอร์ (Banker) อัตราจ่ายคือ 0.95 เท่า เป็นการเลือกว่าเจ้ามือจะมีแต้มมากกว่าฝ่ายผู้เล่น
  4. พ คู่ (Player Pair) อัตราจ่ายคือ 11 เท่า เป็นการเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของผู้เล่นจะได้ไพ่หน้าเดียวกัน
  5. ต่ำ (Small) อัตราจ่ายคือ 1.5 เท่า เป็นการเดิมพันว่าในรอบนั้นๆจะไม่มีการจั่วไพ่ทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น
  6. สูง (Big) อัตราจ่ายคือ 0.5 เท่า เป็นการเดิมพันว่าในรอบนั้นๆจะมีการจั่วไพ่เกิดขึ้นจากฝ่ายแบงก์เกอร์หรือเพลย์เยอร์ หรือ ทั้งสองฝ่าย
  7. บ คู่ (Banker Pair) อัตราจ่ายคือ 11 เท่า เป็นการเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของเจ้ามือจะได้ไพ่หน้าเดียวกัน

บาคาร่า 4 ตังค์

บาคาร่า 4 ตังค์

จะเห็นได้ว่าภาพประกอบที่เราได้นำมาให้ดูเป็นตัวอย่างนั้นจะมีตัวเลือกในการเดิมพันที่ไม่แตกต่างไปจาก บาคาร่าทั่วไป ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะบางเจ้าเท่านั้น ส่วนสิ่งที่ทำให้ บาคาร่า 4 ตังค์ นั้นแตกต่างไปนั้นก็คือ ราคาจ่ายที่คุณจะได้รับในการแทง เจ้ามือชนะ นั้นจะถูกหักค่าคอมมิชชั่นน้อยกว่า 1 สตางค์ นั้นเอง

เดิมทีแล้วบาคาร่าทั่วไปเมื่อแทงเจ้ามือชนะ 100 บาทท่านจะได้รับเงินเดิมพัน 95 บาท แต่หากเลือกเล่นแบบ 4 ตังค์ จะได้รับเงินเดิมพัน 96 บาท ซึ่งนี้ก็คือข้อดีและเป็นข้อแตกต่างในการใช้บริการบาคาร่าแบบ 4 สตางค์นั้นเอง

บาคาร่าซุปเปอร์ซิก

บาคาร่าซุปเปอร์ซิก

สำหรับ SUPER SIX BACCARAT นั้นก็จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะว่ามีลุ้นทำเงินได้สูงสุดถึง 12 เท่ากับตัวเลือกที่เป็นเอกลักษณ์ในการเล่นนั้นก็คือ แทงเจ้ามือชนะด้วย 6 แต้ม ยกตัวอย่างเช่น PLAYER ได้ 3 แต้ม เจ้ามือ ได้ 6 แต้ม ในกรณีนี้ใครแทง SuperSix ก็จะได้รับเงิน 12 เท่าจากยอดแทง

นอกจากนี้ในการเล่น ซุปเปอร์ซิกบาคาร่า นั้นมีข้อดีอีกอย่างและสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า บาคาร่า non-commissions เพราะว่าเมื่อแทงเจ้ามือชนะจะไม่โดนหักค่าคอมรับเต็มๆ 1 เท่าจากยอดแทง

บาคาร่าวัววัว

บาคาร่าวัววัว

เอาใจสายโหดกันเลยทีเดียวสำหรับ บาคาร่าวัววัว (CowCow Baccarat) ซึ่งเป็นบาคาร่าที่สามารถแทงได้ 3 แบบเท่านั้นก็คือ เจ้ามือชนะ / เสมอ / ผู้เล่นชนะ ซึ่งจะเป็นประเภทของไพ่บาคาร่าที่เล่นง่ายที่สุด แต่สิ่งที่แตกต่างจากบาคาร่าทุกรูปแบบที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือ อัตราการจ่ายเงิน ที่แตกต่างออกไปซึ่งจะได้และเสียตามจำนวนแต้มที่ห่างของฝ่ายที่คุณเลือกเดิมพัน

แต้มที่ต่างกัน

อัตราจ่ายเงินเจ้ามือ อัตราจ่ายเงินผู้เล่น
1 แต้ม 1:1 1:1
2 แต้ม 2:1 2:1
3 แต้ม 3:1 3:1
4 แต้ม 4:1 4:1
5 แต้ม 5:1 5:1
6 แต้ม 6:1 6:1
7 แต้ม 7:1 7:1
8 แต้ม 8:1 8:1
9 แต้ม 8.55:1 8.55:1
  • ยกตัวอย่างวิธีการคิดแต้มบาคาร่าวัววัว เช่นแทงเจ้ามือชนะ 100 บาท
  • แล้วผลออกมาคือ เจ้ามือ 8 แต้ม / ผู้เล่น 2 แต้ม ดังนั้นแต้มที่ห่างกันคือ 8 – 2 = 6 แต้ม
  • ดังนั้นท่านจะได้รับเงินเดิมพัน 6 x 100 = 600 บาท
  • ในกรณีกลับกันหากว่าคุณแทงผู้เล่นชนะคุณก็ต้องจ่ายเงินเดิมพัน 600 บาทเช่นกัน

โดยทั้งหมดก็เป็น ประเภทของการเดิมพัน บาคาร่า ซึ่งในแต่ละแบบก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ตามความต้องการ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดการเดิมพันก่อนเล่น เช่น บาคาร่าวัววัว หากว่าชนะก็รอดไปแต่หากว่าแพ้ห่าง 9 แต้มรองรับว่าไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน